วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

2014 All-New Toyota Altis โฉมอเมริกา!

2014 All-New Toyota Altis โฉมอเมริกา!

สำหรับรถในเจนเนอเรชั่นที่ 11 ของค่ายชื่อดัง Toyota ที่ขายดีที่สุดในโลก และเป็นอันดับสองในอเมริกา หลังจากที่ Camry คว้าอันดับที่ 8 ไปในปีก่อน (แม้ว่าจะรวมยอดขายของ Matrix) ก็คงจะไปโมเดลอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก 2014 Corolla compact sedan ซึ่งได้ทำการเปิดตัวระดับโลกไปแล้วใน Santa Monica รัฐแคลิฟอร์เนีย
อันที่จริง ทางค่ายได้เผยโฉมโมเดลคันนี้มาบ้าง แต่เป็นในชื่อ Furia concept ในงาน Detroit Motor Show ที่ผ่านมาในปีนี้ แต่ถ้าคุณคาดหวังว่ามันจะเป็นในทิศทางกับโมเดลที่จัดแสดงแล้วล่ะก็ คุณก็จะต้องผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ความน่าสนใจของโมเดลโฉมใหม่จะลดน้อยลงไปกว่าโมเดลรุ่นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอชมกันต่อไป

ในส่วนของสไตล์การตกแต่ง ได้รับอิทธิพลค่อนข้างมากจาก Avalon โฉมใหม่ ทั้งการตกแต่งภายนอก โดยเฉพาะกระจังหน้า และไฟหน้า LED และแม้กระทั่งการตกแต่งภายใน เช่น แผงหน้าปัดที่ดูพรีเมียมมากกว่า และน่าสนใจกว่า Corolla ในรุ่นก่อน

การปรับโฉมภายใน รวมถึงห้องโดยสารขนาดกว้างขึ้น, ฐานล้อยาวขึ้น 3.93 นิ้ว (99.8 มิลลิเมตร) อยู่ที่ 106.3 นิ้ว (2,700 มิลลิเมตร) ซึ่งทางค่ายกล่าวว่า มันช่วยเพิ่มพื้นที่เบาะหลังให้กว้างขึ้นอีก 2.95 นิ้ว (75 มิลลิเมตร) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

มิติในด้านอื่นๆ ได้แก่ ความยาว 182.6 นิ้ว (4,650 มิลลิเมตร), ความกว้าง 69.9 นิ้ว (1,776 มิลลิเมตร) และความสูง 57.3 นิ้ว (1.455 มิลลิเมตร) นั่นหมายความว่า Corolla โฉมใหม่ จะยาวขึ้น 3.9 นิ้ว (99 มิลลิเมตร), กว้างขึ้น 0.63 นิ้ว (16 มิลลิเมตร) และเตี้ยลง 0.39 นิ้ว (10 มิลลิเมตร) เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

เมื่อคุณเปิดฝากระโปรงขึ้นมา คุณจะพบกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบ ผลิตแรงม้าที่ 132 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 128 lb-ft สำหรับรุ่น LE และโมเดล S แต่สำหรับในรุ่น Eco ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ จะผลิตกำลังมากกว่าที่ 140 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 126 lb-ft

ระบบเกียร์จะพบในรุ่นนี้ถึง 3 แบบ ได้แก่ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในโมเดล Corolla L และ S, เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในโมเดล L รุ่นพื้นฐาน (ใช่แล้ว ทางค่ายยังยืนยันที่จะนำเสนอเกียร์เช่นนี้ในปัจจุบัน) และเกียร์ CVT 7 สปีด รุ่นพัฒนาล่าสุด ภายใต้ชื่อ CVTi-S (“i” ย่อมาจาก intelligent และ “S” ย่อมาจาก shift) โดยจะพบในรุ่น S, LE, และ Eco
ทางค่ายผู้ผลิตกล่าวว่า ในรุ่น Eco เมื่อวิ่งบนทางด่วน จะมีอัตราประหยัดน้ำมันมากกว่า 40 ไมล์/แกลลอน ซึ่งเท่ากับ 5.9 ลิตร/100 กม. หรือ 48 ไมล์/แกลลอน ในอังกฤษ

จุดเด่นของโมเดลตัวนี้ที่ปล่อยออกมาในเบื้องต้น ได้แก่ น้ำหนักที่เบาลง, เหล็กความแข็งแรงสูงทำให้มีน้ำหนักต่ำกว่า 2,900 ปอนด์ (1,315 กิโลกรัม) รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมถุงลมนิรภัย 8 ใบ, ไฟหน้าต่ำ LED, Bluetooth ไร้สาย และการเชื่อมต่อกับระบบเสียง

ในส่วนของเรื่องราคา ยังไม่ทราบแน่ชัดในตอนนี้ แต่ก็คงอีกไม่นาน ทางค่ายคงจะออกมาประกาศราคาให้ทราบทั่วกัน โดยจะวางจำหน่ายในอเมริกาภายในปีนี้ เพื่อเป็นคู่แข่งกับ Civic (รุ่นล่าสุด), Ford Focus, Kia Forte และ Dodge Dart

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น