วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"เณรคำ"ถวาย ฟอร์จูนเนอร์ เจ้าคณะจ.อุบลราชธานี

"เณรคำ"ถวาย ฟอร์จูนเนอร์ เจ้าคณะจ.อุบลราชธานี

หลังจากพระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธรรมยุติ)  ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนและพิจารณาวินิจฉัยข้อเท็จริงเป็นกรณีพิเศษ ตามหนังสือด่วนที่สุดของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ตรวจสอบกรณีพระวิระพล สุขผล ฉัตติโก
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่วัดไชยมงคล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ ประธานกรรมการไต่สวนมูลฟ้องตามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี (ธรรมยุติ) ครั้งที่ 1/2556  ได้ประชุมคณะกรรมการโดยพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของเณรคำว่าสังกัดวัดใด รวมทั้งสถานภาพปัจจุบันในข้อเท็จจริงการบวชเณร และอุปสมบท ซึ่งจากสำเนาเอกสารใบสุทธิสรุปได้ว่า เณรคำบวชเณรที่วัดภูเขาแก้ว ต.พิบูลมังสาหาร โดยพระครูพิบูลธรรมภาณ อดีตเจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหารเป็นอุปัชฌาย์ เมื่อก.ย. 2537 และบวชพระที่วัดดอนธาตุ ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร โดยมีพระครูพิพัฒน์สังฆกร เจ้าอาวาสวัดศรีนวล ต.อ่างศิลา อ.พิบูล เจ้าคณะอำเภอพิบูล เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2542
จากการไต่สวนคณะกรรมการพบข้อพิรุธ การออกเอกสารใบสุทธิถึง 2 ครั้งโดยครั้งที่  2 ออกให้เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2549 สังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานีโดยมีพระศิริธรรมวงศ์ศาจารย์ เจ้าอาวาสรับรอง และเอกสารสำเนาการรับรองบรรพชา/อุปสมบท ตรงหมายเหตุระบุว่า  ได้ย้ายไปเป็นประธานสงฆ์ ณ สำนักวัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  ระบุวันที่ 12 เม.ย. 2549 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการออกใบสุทธิ์โดยมีพระปัญจพล  จิรวธัม โม และมีพระราชธรรมโกศล เจ้าอาวาสยศปัจจุบัน รับรองสำเนา  คณะกรรมการจึงได้เชิญพระราชธรรมโกศล และพระปัญจพล มาให้ปากคำข้อเท็จจริงการออกเอกสารใบสุทธิครั้งที่ 2 ซึ่งทั้งสองยอมรับว่าออกให้จริงโดยจากการตรวจสอบเอกสารสำเนาการรับรองบรรพชา/อุปสมบท เดิมบวชและสังกัดถูกต้องและเณรคำได้อ้างว่าใบสุทธิเก่าหาย คณะกรรมการจึงเตรียมสรุปเพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยสำนวนการไต่สวนเพื่อตัดสินว่าเณรคำมีสถานะเป็นอย่างไรยังสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อหรือไม่ในวันพรุ่งนี้(7 กค.)
ขณะที่พระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัด กล่าวว่า ได้ออกให้จริงโดยเณรคำระบุว่าใบสุทธิเก่าหาย ที่ขอเข้าสังกัดวัดและขอออกไปเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมเพราะการไปสร้างสำนักสงฆ์ทีสำนักสงฆ์บ้านยาง (วัดป่าขันติธรรม) ยุ่งยาก ก่อนไปได้สั่งให้ไปหาวัดสังกัดและเร่งตั้งวัดให้เรียบร้อยแล้วเสร็จ ซึ่งท่านก็รับปาก
พระราชธรรมโกศลกล่าวอีกว่าเณรคำหลังจากที่ขอออกจากวัดไปเพื่อเป็นประธานสงฆ์ก็ได้เจอกันเป็นครั้งคราวปีละ 1-2 ครั้งเวลาได้รับกิจนิมนต์ ซึ่งก็ได้ถามความคืบหน้าการตั้งวัดซึ่งเณรคำก็บอกว่ายังไม่พร้อมและบอกว่าอยากจะทำมูลนิธิมากกว่า ซึ่งก็ได้บอกไปว่าวัดก็คือวัดและตนเองเป็นเจ้าอาวาสน่าจะถูกต้องเมื่อถามบ่อยครั้งก็บ่ายเบี่ยง  
ขณะเดียวกันมีข่าวเณรคำได้บริจาครถฟอร์จูนเนอร์ให้กับพระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัด (ธรรมยุตุ) พระราชโกศล กล่าวว่าเมื่อประมาณปี 2553 หลวงปู่เณรคำได้บอกว่าโยมแม่ได้บริจาคที่ดินเนื้อที่กว่า 27 ไร่ที่บ้านทรายมูลเพื่อทำเป็นสถานปฏิบัติธรรม และได้นิมนต์ไปดู จึงได้ไปดูพบว่ากำลังก่อสร้างใหญ่โตมาก  กำแพงก็สูงจากนั้นหลวงปู่เณรคำได้นิมนต์เข้าไปห้องบันทึกเสียงอัดเทปเพื่อสอนธรรมญาติโยม หลังจากจะเดินทางกลับได้ไปขึ้นรถกลับ ซึ่งเป็นยนต์ 4 ประตูสภาพเก่า เมื่อคุณแม่สุนันทา  ดีเลิศพันธ์ เห็นก็ทักรถว่านี่เหรอรถเจ้าคณะจังหวัด เณรคำที่ยืนอยู่ใกล้เลยบอกว่าคุณแม่ก็ถวายหลวงพ่อสักคันหน่อยสิให้ท่านได้ใช้บ้าง คุณแม่สุนันทา เลยบอกว่าจะถวายรถ โดยบอกว่าวันที่ 6 ส.ค.จะนำรถมาถวายโดยสั่งผ่าน ร้านเจริญศิลป์ ในตัวเมืองอุบล กระทั่งวันที่ 7   ส.ค. ได้นำรถมาถวายโดยมีขบวนรถทางหลวงนำมีคนจำนวนมากมาทำพิธีถวาย  ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าเณรคำถวายหรือโยมสุนันทา เป็นคนถวายอยากให้ท่านได้ออกมาพูดความจริงด้วย.

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลูกค้า ธ.ก.ส. สาขาป่าบอน ถูกรางวัลที่ 1 รับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

ลูกค้า ธ.ก.ส. สาขาป่าบอน ถูกรางวัลที่ 1 รับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

พัทลุง - ธ.ก.ส.พัทลุง จับฉลากแจกรางวัลลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 จำนวน 248 รางวัล มูลค่ากว่า 6.2 ล้านบาท ลูกค้าสาขาป่าบอน โชคดีรับรางวัลที่ 1 รถ Toyota Fortuner
       
       ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงานว่า วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ศูนย์ประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง นายสมพร พุ่มเกื้อ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดพัทลุง ได้จัดพิธีจับฉลากรางวัลลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 โดยมีบัญชีลูกค้าจากทุกสาขาในจังหวัดพัทลุง มีสิทธิได้รับรางวัล จำนวน 248 รางวัล มูลค่าประมาณ 6,270,000 บาท รางวัลที่ 1 เป็นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน รางวัลที่ 2 จำนวน 2 รางวัล รถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ มิราจ รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า และซูซูกิ จำนวน 100 รางวัล และรางวัลที่ 4 จำนวน 145 รางวัล เป็นบัตรเพิ่มทรัพย์
       
       สำหรับรางวัลที่ 1 เป็นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ราคา 1,095,000 บาท นั้น จับฉลากได้ นางสายใหม ยีหวังกอง ลูกค้า ธ.ก.ส.สาขาป่าบอน ส่วนรางวัลที่ 2 เป็นรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ มิราจ จำนวน 2 รางวัล เป็นของ น.ส.ดารุณี ขาวทอง สาขาท่ามิหรำ และนายประมูล สมสุข สาขาเขาชัยสน
       
       นายสมพร พุ่มเกื้อ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พัทลุง กล่าวว่า โครงการเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค เป็นโครงการส่งเสริมการออมในครอบครัว มีลูกค้า ธ.ก.ส.ในจังหวัดพัทลุง ได้สิทธิจับรายชื่อหางบัตรจำนวน 1,104,727 บัตร และทางธนาคารก็มีการจับฉลากรางวัลปีละ 2 ครั้ง มูลค่ารางวัลรวมจำนวน 12 ล้านบาท ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกร ยิ่งมาระยะหลังนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ และธนาคารได้ปรับเปลี่ยนบทบาทมุ่งพัฒนาชนบทมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

‘เณรคำ‘ ยังไม่สึก เตรียมร้องศาลสหรัฐถูกตั้งข้อหากลั่นแกล้ง

โฆษก "อดีตพระเณรคำ" โผล่ ดีเอสไอ เผย ยังไม่สึก เตรียมยื่นศาลสหรัฐ ไต่สวนหมายจับข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เป็นการกลั่นแกล้ง ขณะที่ ทนายเก่า เสธ.แดง รับทำคดี ''เณรคำ''
พระฐกฤต กัณตธัมโม โฆษกประจำตัว นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ พร้อมด้วย นายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เพื่อให้ปากคำหลังมีชื่อปรากฏผ่านสื่อว่า ดีเอสไอ กำลังติดตามตัวพระสงฆ์ที่ร่วมคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสกับอดีตพระเณรคำ
พระฐกฤต เปิดเผยว่า อดีตพระเณรคำ ยังไม่สึกจากการเป็นพระ และยังอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยติดต่อครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 วันก่อน และยืนยันว่า ต้องการกลับประเทศไทย แต่เมื่อถูกถอนหนังสือเดินทาง และถูก ดีเอสไอ ออกหมายจับ จึงต้องหลบหนีและเตรียมต่อสู้คดีในสหรัฐ โดยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนว่า การออกหมายจับของดีเอสไอ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกหมายจับในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้หญิงคนดังกล่าวก็มีสามีใหม่ไปแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด ผู้เสียหายจึงเพิ่งออกมาให้ข้อมูล โดยคาดว่า อาจจะเป็นการกลั่นแกล้ง
ทนายเก่า เสธ.แดง โดดรับคดี 'เณรคำ'
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ พระฐกฤต กัณตธัมโม โฆษกประจำตัว นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ให้การว่า บวชมานาน 3 ปี โดย เป็นโฆษกและทำหน้าที่จัดงานแสดงธรรมเทศนาของอดีตพระเณรคำ รวมถึงทำหน้าที่เป็นล่ามเวลารับกิจนิมนต์เทศน์ในต่างประเทศ พร้อมอ้างว่า อดีตพระเณรคำ ไม่มีเงินมากมายอย่างที่เป็นข่าว เพียงแต่มีการเทศน์ครั้งหนึ่งที่ได้เงินบริจาคสูงถึง 40 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้นำเงินกลับมา โดยให้อยู่ในบัญชีของโรงพยาบาล ส่วนการใช้เงินวันละ 11 ล้านบาทนั้น เป็นการติดหนี้ บริษัทโตโยต้า จ.สระแก้ว ซึ่งอดีตเณรคำไปซื้อรถโตโยต้า คัมรี่ สำหรับใช้นำ
ขบวนและถูกทวงหนี้พร้อมยึดรถคืน ส่วนกระเป๋าหลุยส์ ก็เป็นของปลอมราคา 200-300 บาทเท่านั้น และไม่เคยซื้อเครื่องบินเจ็ต เพียงรับกิจนิมนต์หลายงานต่อวัน และเจ้าภาพเป็นผู้เช่าเครื่องบินให้
ด้าน นายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ กล่าวว่า ตนเป็นอดีตทนายความของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง แต่ตอนนี้ ได้รับการทาบทามให้เป็นทีมกฎหมายและทนายความให้กับอดีตเณรคำ เบื้องต้น ยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดีที่ชัดเจน แต่เตรียมที่จะยื่นให้ศาลของประเทศสหรัฐ ไต่สวนการออกหมายจับของดีเอสไอว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการออกหมายจับในคดีที่เหตุเกิดขึ้น นานกว่า 10 ปี

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โจรใต้แสบซุกบึ้มหวังสังหารเจ้าหน้าที่

โจรใต้แสบซุกบึ้มหวังสังหารเจ้าหน้าที่


เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทหารชุด  ชบ.ฉก.ทพ ที่ 22 จำนวน 8 นาย นั่งรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ แคป  ลาดตระเวนดูแลรักษาความเรียบร้อย บนเส้นทางเลียบถนนชลประทาน หมู่4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และเตรียมจะกลับเข้าฐานที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง มาถึงที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่เปลี่ยวไม่มีบ้านพักอาศัย   ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้นำระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัมฝังไว้ใต้ถนน  ก่อนกดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร จนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดถูกรถลอยละลิ่วตกในป่าละเมาะคูข้างถนน  ริมเขื่อนชลประทาน ทำให้รถเสียหายทั้งคัน ส่วน เจ้าหน้าที่ทหาร กระเด็นตกจากรถคนละทิศคนละทาง  บาดเจ็บ 4 นาย  ประกอบด้วย ร.ต.พรหมมา จันทร์วาง หัวหน้าชุด ,  ส.ท.ยุทธศิลป์ สุรี, อส.ทพ สุวิชย์ ชูตระเคน, และ อส.ทพ.ไชยพร วังศิริ  ทั้งหมดมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขน และขา บาดเจ็บไม่สาหัส นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย  ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและตำรวจพิสูจน์หลักฐานและกำลังตำรวจ ทหารรุดไปตรวจสอบ พบหลุมกว้าง 3 เมตร ลึก 1.5 เมตร อยู่กลางถนน และพบชิ้นส่วน สะเก็ดระเบิด จึงรวบรวมเก็บหลักฐานเพื่อพิสูจน์ต่อไป เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่.

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หนุ่ม ซิ่งรถเก๋ง โตโยต้า ชนการ์ดเลนเจ็บสาหัส

หนุ่ม ซิ่งรถเก๋ง โตโยต้า ชนการ์ดเลนเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 00.15 น.  พ.ต.ท.สุขสันต์ ผาสุข พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุมีรถเก๋งชนกับกาดเลน และมีผู้บาดเจ็บติดภายใน ที่เกิดเหตุถนนวงแหวนตะวันตก(ทางหลวงหมายเลข 9(มุ่งหน้าบางบัวทอง หลักกิโลเมตรที่ 71+700 หมู่ที่ 2 ต.บางกระบือ อ.สามโคก ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย หลังได้รับแจ้งจึง   รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลปทุมธานี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
 ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพและเจ้าหน้าที่อาสาฯ กำลังเร่งช่วยเหลือ คนขับรถเก๋งโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน กฉ-4931 ปทุมธานี ที่บริเวณด้านหน้ารถชนกับการ์ดเลน ก่อนที่รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒบ-5585 กทม.ที่มีนายทัตเทพ เสมอมิตร อายุ 27 ปี พุ่งเข้าชนซ้ำยอย่างจัง ที่บริเวณด้านขาวของรถเก๋ง ในสภาพพังยับเยิน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนคนขับรถเก๋ง ที่ติดอยู่ภายในรถคันดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ต้องนำอุปกรณ์และเครื่องตัดถ่าง เร่งเข้าช่วยเหลือ คนขับรถหลังจากออกมาได้ ทราบขื่อต่อมาคือนายสมศักดิ์ มะลิป่า อายุ 27 ปี (เอกสารบัตรประจำตัว) อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 1 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี”ระบุว่าเป็นหัวหน้าช่าง” ของบริษัทโตโยต้า อาการสาหัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่นำส่งต่อยังโรงพยาบาลปทุมธานี

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า คนขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีเขียว หมายเลขทะเบียน กฉ-4931 ปทุมธานี ได้ขับรถมาและเสียหลัก ในขณะที่ รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒบ-5585 กทม ที่มีนายทัตเทพ  ขับตามหลังมาและเบรกไม่ทัน เนื่องจากเป็นที่มืดมาก ทำให้รถกระบะพุ่งชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้นายสมศักดิ์ บาดเจ็บอยู่ภายในรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิต้องนำอุปกรณ์และเครื่องตัดถ่าง ช่วยเหลือออกมาได้ ส่วนนายทัตเทพฯบาดเจ็บเล็กน้อย และไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานี
ด้าน พ.ต.ท.สุขสันต์  เจ้าของคดีกล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ต้องรอให้นายสมศักดิ์ หายและออกจากโรงพยาบาลเสียก่อน 

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หนุ่มใหญ่ซิ่ง โตโยต้า วีโก้ เหมาร้านบะหมี่-เกี๊ยว บาดเจ็บ 6 ราย

หนุ่มใหญ่ซิ่ง โตโยต้า วีโก้ เหมาร้านบะหมี่-เกี๊ยว บาดเจ็บ 6 ราย

ปทุมธานี - สภ.คลองหลวงรับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนร้านบะหมี่เกี๊ยวบริเวณปากทางเข้าคลองสาม มีผู้บาดเจ็บหลายราย ตรวจสอบเป็นเหตุหนุ่มใหญ่ซิ่งกระบะแล้วเสียหลักพุ่งเข้าชนร้าน บาดเจ็บ 6 ราย
       
       เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 30 ก.ค. ร.ต.ท.เจษฎา พัวพันธ์กุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุมีรถกะบะพุ่งชนร้านขายก๋วยเตี๋ยวและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณปากทางเข้าคลองสาม ระหว่างคลอง2-3 ถนนบางขันหนองเสือ หมู่ที่ 7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย หลังได้รับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่เหยี่ยวเวหาปทุมธานี

       ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน ฒต-9156 กทม. ในสภาพพังยับเยิน ที่พุ่งชนเข้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวชายสี่บะหมี่เกี้ยว และร้ายขายก๋วยเตี๋ยวไก่ จนข้าวของ ถ้วย-ชาม แตกกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์พังเสียหายอีก 4 คัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นลูกค้า,เจ้าของรายและลูกจ้างทั้งหมด 6 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนาย วิฑูร ปิ่นเจริญ 49 ปี ,นาย บุญเรือน กลับเจริญ 51 ปี,นาง สุมนทา ชุมขยัน 28 ปี,น.ส. ประนอม วิกไสว 41ปี,นาง สมพิศ นาคเลิศทิพย์ 38ปี,นางสาว วันวิสา รุ่งสว่าง 18ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว

       ด้านนางสาวนิตยา แสงตา อายุ 37 ปี ภรรยาร้านขายก๋วยเตี๋ยวชายสี่บะหมี่เกี้ยว กล่าวว่า ตนเองกำลังทำก๋วยเตียวให้ลูกค้า จู่ๆได้ยินเสียคล้ายรถชนขอบทางและยางระเบิด จากนั้นก็พุ่งเข้าชนร้านข้างเคียงและร้านตนเอง จนข้าวของพังเสียหายหลายอย่าง เจ้าหน้าที่จับไปโรงพักแล้ว

       ส่วนคนขับรถกระบะคันที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.คลองหลวงแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนายธีระวัฒน์ ชื่นบาน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/304 หมู่ที่ 2 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง เจ้าของร้านขายผลไม้ตามฤดูกาลย่านตลาดไท ให้การว่า ตนเองขับมาจากตลาดไท เพื่อที่จะกลับบ้านพักย่านคลองห้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ยางด้านหลังซ้ายแตก ทำให้รถเสียการทรงตัว จึงพุ่งเข้าชนร้านค้าดังกล่าว เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และชนเข้าไปที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว

       เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนในเบื้องต้น พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทำให้เสียทรัพย์

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รวบอาสากู้ภัยมูลนิธิดัง ส่งยาบ้าเข้าคุกอ่างทอง

รวบอาสากู้ภัยมูลนิธิดัง ส่งยาบ้าเข้าคุกอ่างทอง

 เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อ่างทอง ได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก นายคชภพ หรือ อั้ม เรืองกุศล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 4 ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังสืบทราบจากสายข่าวว่า มีพฤติกรรมลักลอบขายยาบ้าในท้องที่จังหวัดอ่างทอง เมื่อได้ข้อมูลแน่ชัด จึงวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากนายอั้ม โดยนายอั้มนัดให้มารับยาที่บริเวณลานจอดรถหน้าเรือนจำจังหวัดอ่างทอง เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปดักซุ่มรอ และเมื่อถึงเวลานัดหมายนายอั้มได้ขี่รถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กค-6652 อ่างทอง เข้ามาพร้อมกับแฟนสาว และเมื่อนายอั้มจอดรถและลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าที่ล่อซื้อจำนวน 2 เม็ด และเงินที่ล่อซื้ออีก 400 บาท จากนั้นตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบรูดปากปิดอีก 18 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ และพบสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้าที่ซื้อยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้น ยังพบบัตรเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิดังแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

 จากการสอบสวนนายอั้ม ให้การรับสารภาพว่ายาทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยยาที่พบจำนวน 18 เม็ด เตรียมไว้ที่จะนำส่งเข้าเรือนจำ โดยจะนำของฝากเข้าเยี่ยม นช.ศรันยู ละเมียดดี ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในคดีเสพและจำหน่ายยาเสพติด และที่สำคัญลักลอบนำยาบ้าและยาไอซ์เข้าไปในเรือนจำมาแล้วถึง 3 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการยึดของกลางทั้งหมดไว้ และควบคุมตัวนายอั้มไปสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รวบแก๊งโจรกรรมรถรายใหญ่ภาคอีสาน

 รวบแก๊งโจรกรรมรถรายใหญ่ภาคอีสาน

          เมื่อวันที่ 7 ก.ค.  พล.ต.ต.ชัยทัต  อินทนูจิตร  ผบก.ภ.จว.สุรินทร์  พ.ต.อ.อภิชาติ  แจ้งจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์  พ.ต.อ.วินัย  เกตุพันธ์  ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์  พ.ต.ท.ประกิจ  เหลืองวิลัยรอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ และ พ.ต.ท.คำนวณ  บ่ายกระโทก  รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุรินทร์  ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ของภาคอีสาน ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายภานุเดช  หรือ เดช  ดำรงพฤกษา  อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 410/2 หมู่ 3 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด  นายธวัช  หรือบอย  สุ่มมาตร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 / 17 หมู่ 1 ซอยบ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และ นายสมคิด  หรือเล็ก คำหล้า อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/3 หมู่ 4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก พร้อมของกลาง 16 รายการ อาทิ เอกสารหลักฐานของผู้เสียหายที่ถูกโจรกรรมรถไป โทรศัพท์มือถือ แฟลชไดท์ บัตรเอทีเอ็ม ทองคำรูปพรรณ พระเครื่อง เงินสด อุปกรณ์ในการงัดแงะโจรกรรมรถยนต์ และรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้ตระเวนก่อเหตุ
     
           สำหรับการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากในพื้นที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เกิดเหตุโจรกรรมรถยนต์หลายคดี ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ทำการสืบสวนหาแก๊งคนร้าย  กระทั่งพบรถ Toyota Vigo สีขาว 4 ประตู  ซึ่งมีรายละเอียดตรงกับข้อมูลที่ได้รับมาขับเข้าไปบริเวณลานจอดรถของรพ.สุรินทร์ จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่ผู้ที่อยู่ในรถไม่ยอมเปิดประตู ประกอบกับรถติดฟิล์มดำทึบ ไม่สามารถมองเข้าไปเห็นในรถได้  ชุดสืบสวนจึงวิทยุขอกำลังและรถยนต์มาปิดกั้นการหลบหนี พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงประกาศแสดงตัวอีกครั้ง  กระทั่งกลุ่มผู้ต้องยิมยอมให้ตรวจค้น จึงทราบว่าเป็นแก็งคนร้ายที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองสุรินทร์  มาแล้ว 6 ครั้ง และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นโดยละเอียด ถึงพบของกลางหลายรายการ
            สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เคยโจรกรรมรถยนต์มาแล้วหลายคันในหลายท้องที่ ก่อนนำไปส่งให้กับนายวราวิท หรือหนึ่ง  ที่จุดนัดพบใน จ.สกลนครหรือ จ.บึงกาฬ โดยได้รับค่าเสี่ยงคันละ 1-2 แสนบาทต่อคัน แล้วแต่สภาพเก่าใหม่ เน้นเป็นรถโตโยต้า วีโก้   
            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ผู้ต้องหายังได้สาธิตวิธีการโจรกรรมรถยนต์  ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีต่อคัน

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลอบบึ้มที่ทำการอบจ.ภูเก็ต

ลอบบึ้มที่ทำการอบจ.ภูเก็ต


เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 1 ส.ค. พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเหตุระเบิด หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในสถานที่ราชการ จังหวัดภูเก็ต ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายสมหมาย อ่อนคำ รอง ผวจ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถหน้าที่ทำการ ดังกล่าว พบรถตู้โตโยต้า ทะเบียน ทะเบียน 3383 ภูเก็ต และ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีเทา ทะเบียน กย 2791 ภูเก็ต ถูกแรงระเบิดทำให้กระจกรถและรถฝั่งคนขับเสียหายทั้งสองคัน ใกล้กันยังพบรถโตโยต้าอัลติส ทะเบียน กจ 2345 ภูเก็ต ถูกแรงระเบิดด้านซ้ายเสียหาย ทั้งนี้ยังพบถังขยะเสียหาย และยังพบเศษนาฬิกา กับถ่านไฟฉาย คาดว่าเป็นระเบิดตั้งเวลาทิ้งไว้ให้ถังขยะจึงให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายนำระเบิดตั้งเวลาจุดชนวน มาแอบวางไว้ในถังขยะลานจอดรถ ที่ทำการอบจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบริเวณที่จอดรถของนายก อบจ. แต่ระหว่างเกิดเหตุรถนายกอบจ.ไม่อยู่ แรงระเบิดทำให้รถของ สมาชิกอบจ.เสียหาย 3 คัน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดว่าเป็นเพียงการข่มขู่ ไม่ประสงค์ต่อชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน ว่ามีความขัดแย้งภายใน อบจ.หรือ เป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่อย่างไร และจะรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เจ้าอาวาสแต่งพ.ต.อ.ซิ่ง โตโยต้า อัลติส

เจ้าอาวาสแต่งพ.ต.อ.ซิ่ง โตโยต้า อัลติส

เจ้าอาวาสอุตริแต่งเครื่องแบบตำรวจยศ พ.ต.อ.ขับรถไปเจอตำรวจจริงเลยเข้าปิ้ง เหตุเพราะสวมรองเท้าแตะ อ้างแค่ใช้อำพรางระหว่างขับรถรับนิมนต์ไปบ้านลูกศิษย์

    เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 สิงหาคมนี้ พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นำกำลังตรวจพื้นที่ ถึงสถานีบริการน้ำมันปิโตรนาส ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบนายตำรวจยศพันตำรวจเอก นำรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ฆภ 8995 กรุงเทพฯ เข้าไปล้างอัดฉีด แต่นายตำรวจคนดังกล่าวท่าทางมีพิรุธ แม้จะแต่งเครื่องแบบ กลับใส่รองเท้าแตะ จึงขอตรวจสอบ นายตำรวจผู้นั้นอ้างว่าชื่อ พ.ต.อ.เมธี เสรีมาศ เป็นรองผู้บังคับการวิทยุสื่อสาร กระทั่งเจ้าหน้าที่ซักหนักเข้า จึงยอมรับว่าเป็นตำรวจปลอม สถานะปัจจุบันคือ พระมหาไชยสยาม ปัญญาคโม (เสรีมาศ) อายุ 41 ปี

    พระมหาไชยสยามให้การว่า เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาสะท้อน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถูกจับได้ขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส คันดังกล่าว ห่มจีวรไปฉันเช้าที่ จ.ชลบุรี จากนั้นขับรถกลับมาที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างทางได้ขับหลงเข้าทางด่วนมาทาง จ.ปทุมธานี กลัวว่าจะถูกตำรวจทางด่วนจับกุม เพราะเป็นพระสงฆ์แต่ขับรถ จึงจอดรถริมทางเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุด พ.ต.อ.ที่เตรียมไว้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ไม่ให้ถูกจับกุม กระทั่งหลุดรอดด่านตรวจบนทางด่วนมาได้ และขับรถมาเรื่อยๆ เข้ามาทางรังสิต แวะปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าห้องน้ำและนำรถไปล้างอัดฉีด กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม


    ก่อนถูกนำตัวไปให้พระผู้ใหญ่สึกเพื่อดำเนินคดี พระมหาไชยสยามกล่าวว่า บวชพระมาแล้ว 11 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาสะท้อนมา 6 ปี มักได้รับนิมนต์จากลูกศิษย์ให้ไปฉันตามพื้นที่ต่างๆ จึงแต่งกายเป็นตำรวจมากว่า 10 ครั้งระหว่างขับรถ เพื่อตบตาตำรวจจริง.

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

FORTUNER ซิ่งชน จยย.แม่เฒ่าสุโขทัยดับสยอง

FORTUNER ซิ่งชน จยย.แม่เฒ่าสุโขทัยดับสยอง



สุโขทัย - อุบัติเหตุสลด หนุ่มโคราชซิ่งฟอร์จูนเนอร์ชนจักรยานยนต์แม่เฒ่าชาวสุโขทัยดับสยองคาถนน
       
       บ่ายวันนี้ (5 ก.ค.) ร.ต.ท.ขวัญชัย คงชนะ ร้อยเวร สภ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีคนเสียชีวิต บริเวณถนนบายพาส ตรงสี่แยกทางเข้าสำนักงานขนส่ง หมู่ 1 ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรคโลก
       
       ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ญจ 1634 กรุงเทพฯ สภาพหน้ารถพังยับ และมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม ทะเบียน กบม 36 สุโขทัย ล้มคว่ำคาอยู่ใต้ท้องรถ ใกล้กันพบศพนางละออ สำรวมใจ อายุ 62 ปี ชาว อ.สวรรคโลก นอนคว่ำหน้า กะโหลกศีรษะแตก และแขนขาหัก เสียชีวิตคาที่
       
       สอบสวนนายปรีชา เขื่อนโพธิ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.นครราชสีมา เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์ ให้การว่า เพิ่งกลับจากทำธุระที่ อ.ศรีสัชนาลัย กำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับสวนออกมาแบบกระชั้นชิด จึงชนเข้าอย่างจัง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พบแล้ว โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โยงอุ้ม"เสี่ยอ้วน"

พบแล้ว โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โยงอุ้ม"เสี่ยอ้วน"



รถทีมอุ้ม - ตร. นำหมายศาลเข้าตรวจสอบรถฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง ต้องสงสัยว่าเป็นของทีมอุ้มนายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน ตลาดโรงเกลือ ที่บ้านเลขที่ 40/6 หมู่ที่ 1 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.
คดีอุ้ม "เสี่ยอ้วน ตลาดโรงเกลือ" เริ่มคืบหน้า ตำรวจภาค 2 นำหมายศาลบุกตรวจค้นบ้านพักในตัวเมืองชลบุรี พบรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ป้ายแดงต้องสงสัยที่ขับประกบรถเหยื่อ ตรวจสอบพบรอยลายนิ้วมือหลายแห่ง เอกสารบัญชีเงินฝากอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมขยายผลเรียกสอบผู้ครอบครอง เผยตร.รู้แล้วกลุ่มที่ลงมืออุ้ม คาดออกหมายจับได้เร็วๆ นี้



เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ต. นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผบช.ภาค 2 พร้อม พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.ชาตรี สุขศิริ รอง ผกก.บก.สส.ภ.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 และฝ่ายสืบสวนจังหวัดชลบุรีกว่า 40 นาย นำหมายของศาลจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 40/6 หมู่ที่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ซึ่งชุดสืบสวนได้เบาะแสว่ามีรถต้องสงสัยที่พบในกล้องวงจรปิดในช่วงที่เข้าประกบรถนายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน อายุ 67 ปี ผู้กว้างขวางตลาดโรงเกลือ อ.อรัฐประเทศ จ.สระแก้ว ที่หายตัวไป พบรถยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ค-1829 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ที่โรงจอดรถข้างบ้าน


ต่อมาได้ให้พ.ต.ท.พิชิต บำรุงพงษ์ หัวหน้าศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 พร้อมเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเก็บหลักฐานรถคันดังกล่าว เบื้องต้นพบรอยนิ้วมือภายในรถหลายแห่ง และพบว่า รถคันดังกล่าวถูกนำไปล้างในช่วงสัปดาห์นี้ถึง 2 ครั้งแล้ว และเบาะหลัง 2 อันก็ถูกถอดเก็บเอาไว้ในบ้าน 1 อัน อีก 1 อัน ถอดตากแดดเอาไว้บริเวณหน้าบ้าน


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ พร้อมกับเอกสารเป็นบัญชีเงินฝากและบัญชีถอนเงินจากธนาคารกว่า 10 ใบ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังปกปิดข้อมูลเพื่อสอบสวนขยายผล


จากการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่า เห็นรถคันดังกล่าวมาจอดอยู่ในบ้านประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว โดยคนในบ้านบอกว่าเป็นรถของลุง นำมาฝากเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน


รายงานข่าวจากฝ่ายสืบสวนบช.ภ.2 แจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวบุคคลกลุ่มที่ร่วมกันลงมืออุ้มเสี่ยอ้วนแล้ว คาดว่าจะสามารถออกหมายจับนำตัวมาสอบสวนขยายผลดำเนินคดีได้เร็วๆ นี้ ส่วนจะเกี่ยวไปถึงใครบ้างนั้น จะต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ วูบหลับ ชนท้ายรถขยะ อัดก๊อบปี้พนง.เทศบาลขาขาดดับ

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ วูบหลับ ชนท้ายรถขยะ อัดก๊อบปี้พนง.เทศบาลขาขาดดับ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 1 สิงหาคม  ที่ถนนเทศบาล 4 ซอย 7 ต.ปากเพรียว  อ.เมือง  จ.สระบุรี   เกิดเหตุรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ทะเบียน  กท-9409 สระบุรี ชนท้ายรถขยะเทศบาลเมืองสระบุรี ขณะจอดเก็บขยะอย่างจัง จนทำให้ นายประกร  อยู่โต  อายุ 43 ปี พนักงานเทศบาล ที่กำลังเก็บขยะขึ้นรถขยะขาขาดเสียชีวิตคาที่


ทั้งนี้  คนขับรถ
Toyota Fortuner คือ  นายกฤษณะ  จูพานิชย์  อายุ 46 ปี   เผยว่า ขับรถกลับมาจากกรุงเทพฯ ระหว่างทางเกิดอาการง่วงมาก อีกนิดเดียวไม่กี่สิบเมตรจะถึงบ้านอยู่แล้ว แต่เกิดหลับในและขับรถพุ่งชนรถเกก็บขยะจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีขับรถโดยประมาทต่อไป

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สาว TOYOTA FORTUNER ชนดับ 2 แม่เฒ่า

สาว TOYOTA FORTUNER ชนดับ  2 แม่เฒ่า

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 ก.ค. ร.ต.อ.ภควรรษ กลั่นบุศย์ พนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุรถชนกันที่บริเวณ 3 แยกตลาดใหม่ หมู่ 4 ต.รางหวาย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย สาหัส 1 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.เจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเปอโยต์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 1751 กาญจนบุรี จอดอยู่ข้างถนน สภาพแถบขวาถูกชนอย่างแรงจนพังยับเยิน ตรวจสอบภายในพบศพ นางอนัญญา แป้นทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 2 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี คนขับกระเด็นไปเสียชีวิตอยู่ที่เบาะหลัง สภาพศพคอ แขนและขาหัก ตามร่างกายมีแผลฉกรรจ์ ส่วนที่เบาะหน้าข้างคนขับพบศพนางน้ำเชี่ยว คำภิมาบุตร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สภาพศพถูกอัดก๊อบปี้จนคอหัก มีบาดแผลฉกรรจ์ตามตัวเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นางหยาม สามัคคี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 2 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่ต้องนำร่างออกมาและรีบนำส่งร.พ.เจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน ก่อนส่งต่อไปยังร.พ.มะการักษ์ อ.ท่ามะกา

บริเวณใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 7639 กาญจนบุรี สภาพด้านหน้าพังยับทำให้หม้อน้ำแตกกระจาย มีน.ส.อังคณา สมหวัง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 2 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี คนขับ ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่

น.ส.อังคณาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกมาจากอำเภอพนมทวน เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นทางตรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางสามแยกตลาดใหม่ อยู่ๆ รถผู้ตายก็ขับออกมาจากทางแยกเพื่อขึ้นถนนสายหลักแต่คนขับได้ขับตัดหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้รถยนต์ที่ตนขับมาเบรกไม่ทัน ทำให้พุ่งชนด้านคนขับอย่างแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.พนมทวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เซียนซอฟต์แวร์พบวิธีแฮกรถ ทำ Toyota Prius และ Ford Escape เบรกได้อัตโนมัติ

เซียนซอฟต์แวร์พบวิธีแฮกรถ ทำ Toyota Prius และ Ford Escape เบรกได้อัตโนมัติ

Charlie Miller หนึ่งในนักเจาะระบบที่สามารถควบคุมระบบเบรกรถยนต์ได้
       2 เซียนซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ชื่อดังชาวอเมริกันประกาศพร้อมเผยแพร่รายละเอียดและเทคนิกการเจาะระบบควบคุมรถยนต์ทั้ง Toyota Prius (โตโยต้า พรีอุส) และ Ford Escape (ฟอร์ด เอสเคป) ความยาว 100 หน้ากระดาษ ระบุพบวิธีทำให้รถทั้ง 2 รุ่นสามารถเบรก-หมุนพวงมาลัย-เร่งเครื่องยนต์ได้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ด้านผู้ผลิตรถเผยได้รับทราบปัญหาและช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ในรถยนต์แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข
       
       แม้การเจาะระบบควบคุมรถยนต์จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวใหม่เรื่องการเจาะระบบรถยนต์มักจะได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่นักแฮกอย่าง Charlie Miller (ชาร์ลี มิลเลอร์) และ Chris Valasek (คริส วาลาเสก) ซึ่งอาจจะเบื่อกับการค้นหาข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์และแอปเปิล ประกาศว่าสามารถพบช่องโหว่ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีอาจเจาะเข้าไปดัดแปลงระบบจนทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ขับรถโดยไม่รู้ตัว
       
       Charlie Miller และ Chris Valasek เป็นนักเจาะระบบฝ่ายดีหรือ “white hats” ที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อทำการศึกษาค้นหาข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ก่อนที่นักแฮกฝ่ายร้าย หรือ “black hats” จะพบก่อนและกอบโกยหรือสร้างความเสียหายจากช่องโหว่นั้น รายงานล่าสุดระบุว่า ทั้ง 2 เซียนมีกำหนดเผยแพร่ซอฟต์แวร์ที่สร้างเพื่อการเจาะระบบรถยนต์ที่งานประชุมนักเจาะระบบ Def Con ที่ลาสเวกัสช่วงสัปดาห์ต้นเดือนสิงหาคม 2556 เพื่อให้กลุ่มนักเจาะระบบได้ร่วมมือกันเฝ้าระวังความปลอดภัยบนระบบซอฟต์แวร์รถยนต์
       
       เซียนซอฟต์แวร์ทั้งคู่ระบุว่าสามารถค้นพบวิธีที่ทำให้ โตโยต้า พรีอุส สามารถเบรกทันทีที่เครื่องยนต์ถูกเร่งถึงระดับ 80 ไมล์ต่อชั่วโมง ไม่เพียงเบรก นักเจาะระบบยังสามารถบังคับให้พวงมาลัยรถหมุนหรือเร่งเครื่องยนต์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวด้วย
       
       เหนืออื่นใด ช่องโหว่นี้ทำให้นักเจาะระบบสามารถปิดการทำงานของระบบเบรกในรถ Ford Escape ที่กำลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำพิเศษ จุดนี้จะทำให้รถยังเคลื่อนตัวต่อไปไม่ว่าผู้ขับจะเหยียบเบรกแล้วก็ตาม ซึ่งถือเป็นสภาพที่อันตรายมากหากผู้ขับขี่ต้องการชะลอรถเพื่อหลบฝูงชน แต่พบว่ารถไม่สามารถหยุดได้
       
       สิ่งที่ทำให้ 2 เซียนไอทีสามารถเจาะระบบควบคุมรถเหล่านี้คือช่องโหว่บนระบบโปรแกรมฝังตัวซึ่งถูกติดตั้งในระบบเครือข่ายควบคุมรถยนต์ เบื้องต้นทั้งคู่ใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรถยนต์ โดยระบุว่าจะไม่เผยแพร่ข้อมูลวิธีการเจาะระบบรถจากระยะไกล ซึ่งมีโอกาสถูกนำไปต่อยอดเป็นอาชญากรรมในอนาคต
       
       Valasek หนึ่งในเซียนไอทีที่สามารถค้นพบช่องโหว่นี้มีดีกรีเป็นผู้อำนวยการฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะของบริษัท IOActive ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นผู้รับหน้าที่ค้นหาข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ Windows ให้ไมโครซอฟท์ โดย Valasek คาดว่าการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้จะช่วยให้นักแฮกฝ่ายดีสามารถค้นหาช่องโหว่อื่นในรถยนต์เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
       
       ด้าน Miller วิศวกรฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ Twitter ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ทำวิจัยเรื่องการเจาะระบบร้าน App Store (แอปสโตร์) ของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาเชื่อมั่นในสายตาของนักวิจัยเรื่องความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ 100 คน มากกว่าการทดสอบภายในของ Ford และ Toyota เอง
       
       เรื่องนี้ประชาสัมพันธ์ของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป (Toyota Motor Corp) ระบุว่าบริษัทกำลังเร่งตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับมีการลงทุนมากมายเพื่อการรักษาความปลอดภัยของระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ โดยยอมรับว่ารถโตโยต้ายังคงมีข้อบกพร่องเหลืออยู่ เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ
       
       เช่นเดียวกับโฆษกของฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor Co) ซึ่งยืนยันว่าฟอร์ดได้ลงทุนกับการวิจัยและพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของรถยนต์มหาศาล ขณะเดียวกัน การเจาะระบบรถยนต์ที่พบนั้นยังมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากผู้เจาะระบบจะต้องเปิดประตูรถและเข้าไปติดตั้งคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์ โดยไม่สามารถตั้งค่าโจมตีจากระยะไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดนี้ทำให้ช่องโหว่นี้ยังไม่มีความเสี่ยงในระดับวงกว้าง 
       
       อย่างไรก็ตาม การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความตื่นตัวกับวงการรักษาความปลอดภัยในรถยนต์มาก โดยหลายฝ่ายมองว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง จุดนี้ทั้ง Miller และ Valasek ระบุว่าทั้ง 2 ไม่ทำการวิจัยการเจาะระบบจากระยะไกล เนื่องจากงานวิจัยดังกล่าวเคยมีการศึกษามาแล้วเมื่อปี 2011 (แต่ไม่มีการเปิดเผยผลการศึกษาต่อสาธารณชน) โดยเป็นการศึกษาหาโอกาสที่รถจะถูกเจาะระบบผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายอย่างบลูทูธ (Bluetooth)
       
       ในมุมของรัฐบาลอเมริกัน สำนักงานรักษาความปลอดภัยบนทางหลวงสหรัฐฯ หรือ The National Highway Traffic Safety Administration นั้นเริ่มต้นดำเนินโครงการวิจัยด้านไซเบอร์ซีเคียวริตีในรถยนต์แล้ว คาดว่าจะมีการขยายผลต่อเนื่องในอีกหลายประเทศ
       
       สำหรับยุโรป การเปิดเผยผลการศึกษาข้อบกพร่องในระบบรถยนต์นั้นนำไปสู่คดีความมากมาย ตัวอย่างเช่นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มีกำหนดสาธิตการเจาะระบบรถหรูอย่างรถพอร์ช (Porsche), ออดี้ (Audi), เบนท์ลีย์ (Bentley) และลัมบอร์กินี (Lamborghini) ในงานประชุม Usenix ที่วอชิงตันช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ จำเป็นต้องยกเลิกกำหนดการไปเพราะคำสั่งศาลที่ค่ายรถอย่างโฟลค์ (Volkswagen AG) ขอให้ศาลอังกฤษคุ้มครองไม่ให้มีการเผยแพร่ช่องโหว่นี้แก่สาธารณชน โดยนักวิจัย Flavio D. Garcia แห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม, Roel Verdult และ Baris Ege แห่งมหาวิทยาลัย Radboud University Nijmegen ในเนเธอร์แลนด์
       
       ทั้งหมดนี้โฆษกของ 3 นักวิจัยระบุว่า แม้จะไม่มีการสาธิตช่องโหว่นี้ในงานประชุม แต่ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยจะยังคงตีพิมพ์เผยแพร่งานวิจัยนี้ระหว่างการรอพิจารณาคดี ขณะที่โฆษกของ Volkswagen ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โตโยต้า ชดเชยเงินลูกค้ากว่า 1.63 ล้านเหรียญนับตั้งแต่ปี 2009

โตโยต้า ชดเชยเงินลูกค้ากว่า 1.63 ล้านเหรียญนับตั้งแต่ปี 2009

ค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota นั้นล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขที่ต้องชดเชยให้กับลูกค้ากว่า 1.63 พันล้านดอลล่าร์หรือประมาณ 1.23 พันล้านปอนด์จากปัญหาต่างๆนับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งมีรถมากกว่า 10 ล้านคันนั้นถูกเรียกคืนตามรายงานของ Bloomberg สำนักข่าวชื่อดัง

“เรามุ่งมั่นที่จะชดเชยอย่างมากที่สุดให้กับลูกค้าของเราทุกคน ดังนั้นเราจึงยังคงยืนยันที่จะจ่ายเงินชดเชยทั้ง 100% ให้กับลูกค้าของเราที่รถมีปัญหาซึ่งโดยเฉลี่ยนั้นแต่ละคันจะอยู่ที่จำนวน 9,740-10,000 เหรียญสหรัฐ” John P. Hopper หัวหน้าทีมทนายของ Toyota เผย

อย่างไรก็ตามเงินจำนวนกว่า 1.63 พันล้านเหรียญนั้นไม่ใช่น้อยๆเลยสำหรับที่ต้องมาชดเชยในข้อกฎหมาย ดังนั้นเราจะติดตามอัพเดทผลกำไรของการประกอบการจากทาง Toyota มาให้ได้ชมกันเรื่อยๆ

โตโยต้า อัลติส รุ่นใหม่ตกแต่งลายไม้ภายในแบบย้อนยุค

โตโยต้า อัลติส รุ่นใหม่ตกแต่งลายไม้ภายในแบบย้อนยุค

ดูเผินๆอาจจะเหมือนรถปี 70 ของพวกเศรษฐีเก่าที่เปลี่ยนรถพวกของเขาให้ดูหรูหราและสุขุมขึ้นด้วยการเปลี่ยนแนวการแต่งรถภายในเป็น earth tones หรือลายไม้ทั้งหมดเพื่อความสวยงาม

แต่ล่าสุดนั้นรถแบบ Toyota Corolla ในรูปนี้นั้นคือรถแบบ new Toyota Corolla Altis sedan ที่ทางสื่ออย่าง imaginative นำมาเสนอ โดยการตกแต่งนี้เป็นผลงานของทางค่าย Modcar Trendz ในเมือง Mumbai, India ที่เคยตกแต่งรถแบบ Ferrari F430 replica มาแล้ว

อย่างไรก็ตามเรากลับพบบางมุมของตัวรถที่ไม่ได้ติดชุดไม้นั่นคือพื้นที่ว่างบริเวณประตูที่สามารถมองเห็นได้ง่าย (ไม่ทราบว่าเป็นความผิดพลาดของ Modcar Trendz หรือไม่) แต่มันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนด้วย

TOYOTA คาดตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2556

TOYOTA คาดตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2556 มียอดขายรวมที่ 1,300,000 คัน ลดลง 9.5% ครึ่งปีแรกขาย 740,795 คัน เพิ่มขึ้น 22.1%

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2556 มีปริมาณการขาย 740,795 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% พร้อมปรับประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2556 เป็น 1,300,000 คัน ลดลง 9.5%

มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ยอดขายรถยนต์ครึ่งแรกของปีนี้ ได้สร้างสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์ครึ่งปีแรก ในประเทศไทยด้วยยอดขาย 740,795 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มียอดขายเพิ่มขึ้น 11.4% ตลาดรถยนต์นั่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 36.7% ทั้งนี้ตลาดรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกของปี มียอดขายที่สูงมากซึ่งเป็นผลจากการส่งมอบรถยนต์ที่ค้างจองจากโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆที่เริ่มตั้งแต่ในช่วงต้นปี
สถิติการขายรถยนต์ ครึ่งแรกของปี 2556
- ปริมาณการขาย(คัน)
เปลี่ยนแปลง   
เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของ 2555
- ปริมาณการขายรวม
740,795
+22.1%
- รถยนต์นั่ง
352,051
+36.7%
- รถเพื่อการพาณิชย์
388,744
+11.4%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)
326,195
+6.8%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)
295,705
+8.1%
          โดยโตโยต้ามียอดขาย 237,318 คัน ลดลง 1.6% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 99,337 คัน ลดลง 5.8% รถเพื่อการพาณิชย์ 137,981 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 128,185 คัน เพิ่มขึ้น 2.2%สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ครึ่งแรกของปี 2556
- ปริมาณการขายโตโยต้า 237,318 คัน ลดลง 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 32.0%
- รถยนต์นั่ง 99,337 คัน ลดลง 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 28.2%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 137,981 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.5%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 128,185 คัน เพิ่มขึ้น 2.2% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 112,420 คัน เพิ่มขึ้น 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%สำหรับ การส่งออกในครึ่งปีแรก โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 195,748 คัน ลดลง 4.3% คิดเป็นมูลค่า 85,855 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 31,499 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 117,354 ล้านบาท”
สำหรับ แนวโน้มตลาดรถยนต์ครึ่งหลังของปี 2556 มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคมตลาดได้เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดช่วงครึ่งหลังของปี สะท้อนถึงสภาพตลาดที่กำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากการเติบโตอย่าง ก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ดังนั้นแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้จะมียอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1,300,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 9.5%
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2556
- ปริมาณการขายรวม 1,300,000 คัน ลดลง 9.5%
- รถยนต์นั่ง 620,000 คัน ลดลง 7.8%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 680,000 คัน ลดลง 11.0%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 605,000 คัน ลดลง 9.2 %
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 545,000 คัน ลดลง 8.1%

โดย โตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่มากกว่า 450,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 172,000 คัน ลดลง 23.5% รถเพื่อการพาณิชย์ 278,000 คัน ลดลง 4.6% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 254,500 คัน ลดลง 5.6%
ประมาณยอดขายรถยนต์ในประเทศของโตโยต้า ปี 2556
- ปริมาณการขายรวม >450,000 คัน ลดลง 12.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
- รถยนต์นั่ง 172,000 คัน ลดลง 23.5% ส่วนแบ่งตลาด 27.7%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 278,000 คัน ลดลง 4.6% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 254,500 คัน ลดลง 5.6% ส่วนแบ่งตลาด 42.1%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 220,000 คัน ลดลง 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

สำหรับ เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 438,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 185,000 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 66,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 251,000 ล้านบาท”

มร.ทา นาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง เริ่มจากความต่อเนื่องของการแนะนำ วีออส ใหม่ ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยและได้เริ่มทำการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในอา เซียนตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเดือนสิงหาคมนี้ วีออสใหม่ จะเริ่มส่งออกไปยังกลุ่มประเทศนอกอาเซียน นับเป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกที่มีการส่งออกไปประเทศนอกภูมิภาคอาเซียน จากนั้นจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์ อีโคคาร์ของโตโยต้าที่ทุกท่านรอคอย

นอก จากนี้เรายังมีกิจกรรมอีกมากมายที่จะมอบให้กับลูกค้าและสังคมไทย ทั้งในด้านการตลาดและกิจกรรมสังคม อาทิ Toyota Safe Driving Education หรือ การอบรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อสร้างความเข้าใจในศักยภาพของผู้ใช้รถใช้ถนน การสนับสนุนกีฬาหลากหลายประเภท อาทิ ฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก โตโยต้าลีกคัพ และโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต

ทั้งหมดนี้ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับคนไทยและสังคมไทย เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตลอดไป ดั่งความมุ่งมั่นของเรา “โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข” มร.ทานาดะกล่าวในที่สุด

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนมิถุนายน 2556
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 106,018 คัน ลดลง 14.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 38,060 คัน ลดลง 16.1% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 17,701 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 17,345 คัน ลดลง 1.2% ส่วนแบ่งตลาด 16.4%

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 49,664 คัน ลดลง 17.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,844 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 16,280 คัน ลดลง 4.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 3,674 คัน ลดลง 49.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 47,092 คัน ลดลง 14.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,754 คัน ลดลง 14.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,349 คัน ลดลง 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,665 คัน ลดลง 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,656 คัน
โตโยต้า 1,876 คัน – มิตซูบิชิ 1,052 คัน – เชฟโรเลต 575 คัน – อีซูซุ 119 คัน – ฟอร์ด 34 คัน

4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 43,436 คัน ลดลง 12.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,878 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,230 คัน ลดลง 0.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,613 คัน ลดลง 47.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.0%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 56,354 คัน ลดลง 10.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,216 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 17,701คัน เพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,665 คัน ลดลง 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2556

1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 740,795 คัน เพิ่มขึ้น 22.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 237,318 คัน ลดลง 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 32.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 131,458 คัน เพิ่มขึ้น 172.1% ส่วนแบ่งตลาด 17.7%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 120,419 คัน เพิ่มขึ้น 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 16.3%
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 352,051 คัน เพิ่มขึ้น 36.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 117,406 คัน เพิ่มขึ้น 150.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 99,337 คัน ลดลง 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 28.2%
อันดับที่ 3 นิสสัน 43,534 คัน เพิ่มขึ้น 3.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 326,195 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 128,185 คัน เพิ่มขึ้น 2.2% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 107,445 คัน เพิ่มขึ้น 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 33,470 คัน ลดลง 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 30,490 คัน
โตโยต้า 15,765 คัน – มิตซูบิชิ 9,547 คัน – เชฟโรเลต 3,711 คัน – อีซูซุ 1,210 คัน – ฟอร์ด 257 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 295,705 คัน เพิ่มขึ้น 8.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 112,420 คัน เพิ่มขึ้น 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 106,235 คัน เพิ่มขึ้น 21.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 23,923 คัน ลดลง 21.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 388,744 คัน เพิ่มขึ้น 11.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 137,981 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 120,419 คัน เพิ่มขึ้น 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 33,470 คัน ลดลง 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Toyota จัดแคมเปญพิเศษ ในงาน FAST Auto Show Thailand 2013

Toyota จัดแคมเปญพิเศษ ในงาน FAST Auto Show Thailand 2013

ค่าย โตโยต้า เข้าร่วมจัดแสดงในงาน มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา โดยนำรถทุกรุ่นออกจัดแสดง พร้อมแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่าน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งรถเข้าร่วมแสดงในงาน FAST Auto Show Thailand 2013 ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

สำหรับแคมเปญพิเศษมีดังนี้ รถยนต์ วีออส 1.5J รุ่นมาตรฐาน ผ่อนเริ่มต้น 4,919 บาท/เดือน, รถยนต์โคโรลล่า อัลติส 1.6G ผ่อนเริ่มต้น 8,949 บาท/เดือน, รถยนต์ ไฮลักซ์ วีโก้ สมาร์ทแค็บ 2.5J ผ่อนเริ่มต้น 5,843 บาท/เดือน
และสำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ทุกรุ่น จองซื้อวันนี้ รับฟรี ซัมซุง กาแล็กซี่ แกรนด์ สมาร์ท เซ็ต พร้อม smart G-Book รวมมูลค่า 16,000 บาท พร้อมรับเพิ่มพิเศษ บัตรกำนัลอุปกรณ์ตกแต่งโตโยต้า มูลค่า 10,000 บาท เมื่อซื้อรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 อินเตอร์คูลเลอร์ หรือ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ CNG ทุกรุ่น

และสำหรับสมาชิก The Style by Toyota และ e-Toyota Club ลงทะเบียนในงานรับของที่ระลึกฟรี
พบกับบู๊ธโตโยต้า ได้ในงาน มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013 ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

Toyota จัดกิจกรรมฉลองยอดขาย 5 ล้านคันของโตโยต้า ไฮบริดทั่วโลก

Toyota จัดกิจกรรมฉลองยอดขาย 5 ล้านคันของโตโยต้า ไฮบริดทั่วโลก

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดกิจกรรม Hybrid 5 Million Celebration การฉลองยอดขาย 5 ล้านคันของโตโยต้า ไฮบริดทั่วโลก”  เพื่อฉลองความสำเร็จของยอดขายไฮบริดและตอกย้ำภาพลักษณ์ทางด้านความนิยมของยนตรกรรมไฮบริดของโตโยต้า วันที่   27-28 กรกฎาคม 2556 ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ ผู้ที่ลงทะเบียนในงานจะมีสิทธิลุ้นรับ iPad Mini จำนวน 20 เครื่อง และสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถคัมรี หรือ พริอุส มีสิทธิ์ลุ้นรับส่วนลด  500,000 บาท จำนวน 2 รางวัล และทดลองขับรับไฟฉายพลังงานกลฟรี
สำหรับงานที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวจะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย พร้อมพูดคุยกับพรีเซ็นเตอร์โตโยต้า พริอุสทั้ง 3 คน คุณไบร์ท พิชญทัฬห์ คุณโทนี่ รากแก่น และคุณบีท กวี

“เจมส์ – จิรายุ” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่กับ โตโยต้า วีออส

“เจมส์ – จิรายุ” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่กับ โตโยต้า วีออส “V Control”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำแคมเปญโฆษณา โตโยต้า วีออส ใหม่ภายใต้แนวคิด “VIOS V Control…สู่อีกระดับของการควบคุมที่เหนือกว่า” พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์หนุ่มสุดฮอตคนล่าสุด “เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข” ด้วยความสามารถและบุคลิกที่โดดเด่น ส่งผลให้เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยทั้งประเทศ และสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของ วีออส รถยนต์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีดีไซน์โดดเด่น ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยแคมเปญโฆษณาชุดใหม่นี้จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป

VIOS V Control
V Control คือ แนวคิดในการสื่อสารรถยนต์ Toyota Vios ใหม่ ที่แสดงถึงความโดดเด่นในเรื่องการควบคุม และการทรงตัวที่เหนือชั้น โดยตัวอักษร “V” มาจากอักษรตัวแรกของ VIOS และหมายถึงสัญลักษณ์ “V” หรือเลข 5 ในภาษาโรมันอีกด้วย ดังนั้น คำว่า “V Control” จึงหมายถึง การทำงานร่วมกันของ 5 คุณลักษณะเด่น ของ VIOS เพื่อสู่อีกระดับของรถยนต์ที่มีการควบคุมที่เหนือกว่า”

5 องค์ประกอบของ V Control ประกอบไปด้วย
1. ดีไซน์ Aerodynamic คือ การออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อลดแรงเสียดทานของอากาศ ช่วยให้การขับขี่ในทางตรงทำได้อย่างมั่นคง ทรงตัวเหนือชั้น พร้อมประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม เช่น
1.1 Aero Stabilizing Fin ครีบรีดอากาศบริเวณกระจกมองข้างและไฟท้าย ช่วยสร้างกระแสลมวน และแรงกดบริเวณด้านข้างตัวรถ เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว
1.2 Air Spats ลดแรงต้านของกระแสลมบริเวณล้อหน้าและหลัง ทำให้กระแสลมไหลผ่านตัวรถได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่อย่างมั่นคง
1.3 ครีบใต้ท้องรถ บริเวณพื้นรถด้านหน้าช่วยให้ลมไหลผ่านท้องรถได้ดีขึ้นให้การทรงตัวที่ดีขึ้น
1.4 หลังคาแบบ Catamaran การออกแบบหลังคาให้มีแนวลึก 2 แนว ช่วยให้หลังคารถมีความ แข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา
2. พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ใหม่ ด้วยการปรับปรุงระบบพวงมาลัยใหม่ ทำให้ควบคุมแม่นยำมากขึ้น โดยระบบจะปรับน้ำหนักของพวงมาลัยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกสภาพความเร็ว
3. ช่วงล่างปรับจูนใหม่ มั่นใจทุกเส้นทาง เกาะถนนอย่างเหนือชั้น นุ่มนวลทุกการขับขี่
4. ระบบเบรกใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพของเบรก ทำให้สามารถหยุดรถได้ทันใจ และใช้ระยะทางสั้นกว่าเดิม มั่นใจทุกสถานการณ์
5. โครงสร้างตัวถังรถที่แข็งแกร่งขึ้น จากการเพิ่มจุดเชื่อมมากกว่า 100 จุด ทั่วทุกพื้นที่ของโครงสร้างตัวถังพร้อมเสริมเหล็กค้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นรถถึง 3 จุด ทำให้โครงสร้างรถมีความแข็งแกร่ง ทนทานทนต่อแรงบิดและแรงดึงสูง และมีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวที่ดีเยี่ยม

โดยแคมเปญโฆษณาทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เตรียมแผนประชาสัมพันธ์โฆษณาชุดใหม่ โดยใช้ชื่อโฆษณาว่า “Everything is in control” พร้อมคำพูดติดหูของเจมส์ จิรายุ Presenter คนใหม่ว่า “V Control เจมส์สั่งได้…คุณก็สั่งได้” เพื่อสะท้อนถึงความมั่นใจในการควบคุมวีออส พร้อมเชิญชวนให้ไปทดลองขับที่ โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ โดยโฆษณาชุดใหม่นี้ จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป และมีการจัดกิจกรรม Roadshow เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้มีโอกาสร่วมทดลองขับ และสัมผัส V Control ในวีออสใหม่

ร่วมพิสูจน์การควบคุมที่เหนือกว่าของ V Control กับ All New VIOS…Have it all  พร้อมสอบถามรายละเอียด และสั่งจองได้ที่โชว์รูมโตโยต้า 370 แห่งทั่วประเทศ

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โตโยต้า คัมรี่ ทำยอดขายทะลุ 10 ล้านคันในอเมริกา

โตโยต้า คัมรี่ ทำยอดขายทะลุ 10 ล้านคันในอเมริกา

เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่ที่ทางค่าย Toyota ปล่อยโมเดลชื่อดัง Camry ออกสู่ตลาดในอเมริกา และในตอนนี้ รถตระกูล sedan สัญชาติญี่ปุ่นคันนี้ ก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 10 ล้านคันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเป็นรถสำหรับโดยสารที่ขายดีที่สุดในอเมริกาในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา โมเดล Camry สร้างยอดขายได้เกือบ 20% ของรถทั้งหมดจากค่ายที่เคยขายมาในอเมริกา และเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ก็มาถึงในปีเดียวกับที่ โตโยต้า คัมรี่ ฉลองครบรอบ 30 ปีในอเมริกา

ด้าน Bob Carter รองประธานอาวุโสฝ่าย Automotive Operations ของบริษัท Toyota Motor Salesออกมากล่าวว่า “คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่ายอดขาย Camry ถึง 10 ล้านคันในอเมริกาอีกแล้ว ด้วยการสนับสนุนจากลูกค้าผู้ภักดีของทางค่ายเป็นจำนวนมาก ทำให้ Camry กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่สำคัญในประเทศก็ว่าได้”
โมเดล Camry เจนเนอเรชั่นแรก ถูกผลิตขึ้นสู่ตลาดในอเมริกาในปี 1983 และทำยอดขายได้ 52,651 คันในปีแรก หลังจากนั้นอีก 30 ปี โมเดลในเจนเนอเรชั่นแรกยังคงปรากฏบนท้องถนนอยู่ 773 คัน และสำหรับยอดขาย 10 ล้านคันในทุกๆ เจนเนอเรชั่นในตลาดอเมริกา ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่บนท้องถนนประมาณ 6.4 ล้านคัน

การผลิตรถชื่อดัง Camry ในอเมริกา เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 1988 ใน Georgetown เมือง Kentucky ส่วนในปัจจุบัน Camry ทั้งหมดที่ขายในอเมริกา จะถูกผลิตขึ้นในประเทศทั้งหมด โดยทางค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นออกมากล่าวว่า Camry เป็น “รถที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์อเมริกันมากที่สุด” เนื่องจากส่วนประกอบถึง 75% ถูกผลิตขึ้นที่นี่ ตามข้อมูลจาก National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA)